บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ไม่ตั้งใจเรียน ป.1 (ต่อ)

นักเรียนคนที่ 9
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับกับบิดามารดาและตา นักเรียนมีพี่ชาย 1 คน บิดามารดามีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไปฐานะขาดแคลน

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีสมาธิในการฟังครูสั้นมาก ในขณะที่เรียนมักชวนเพื่อนคุย บางครั้งก็แอบเอาของเล่นขึ้นมาเล่น ชอบลืมหนังสือเรียนบางครั้งก็ชอบลุกจากเก้าอี้เดินไปมาขณะที่ครูมอบหมายงานให้ทำ และเล่นกับเพื่อน บางครั้งชอบลอกงานเพื่อน ไม่ส่งงานตามเวลาที่กำหนด ครูต้องคอยตักเตือนเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนของเขาเปลี่ยนไปมาก มีสมาธิในการฟังมากขึ้น ไม่คุยกับเพื่อน ไม่นำของเล่นขึ้นมาเล่นและไม่ลืมอุปกรณ์การเรียนมา การลุกจากเก้าอี้น้อยลง ส่งงานตามกำหนดเวลาแต่อย่างไรก็ดียังต้องมีการตักเตือนบ้างเป็นบางครั้ง

นักเรียนคนที่ 10
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับมารดา บิดาเลิกกับมารดา บิดาไปบวชเป็นพระ ที่บ้านนักเรียนอยู่กับ ปู่ ย่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและหาปลาขาย มีฐานะค่อนข้างยากจน

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่านักเรียนมักจะคุยกับเพื่อนตลอดเวลา รบกวนสมาธิในการเรียนของเพื่อนและรบกวนการสอนของครู และชอบลืมหนังสือบ้าง สมุดบ้าง นำอุปกรณ์การเรียนมาไม่ครบ ลุกจากที่นั่งของตนเอง เดินไปหาเพื่อนคนอื่น ๆ ในห้องเรียน เมื่อครูมอบหมายงานให้ปฏิบัติ ก็ส่งงานไม่ทันเวลาที่กำหนด ครูต้องคอยตักเตือนเรื่องการส่งงานเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่าพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนของนักเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด การคุยกับเพื่อนลดลง มีคุยบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ครูสอนและให้ทำแบบฝึกหัด ลุกจากเก้าอี้ของตนเองเพื่อเดินไปมาน้อยลง เมื่อครูมอบหมายงานให้ปฏิบัติก็สามารถนำส่งทันตามเวลาที่กำหนด แต่อย่างไรก็ดียังต้องให้ครูคอยตักเตือนบ้างเล็กน้อย

นักเรียนคนที่ 11
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน

นักเรียนอาศัยอยู่กับมารดาและตา บิดาเลิกกับมารดา และตามีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีฐานะยากจน

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีสมาธิในการเรียนสั้นมากคือนักเรียนจะตั้งใจฟังครูสอนประมาณ 5-10 นาที แล้วหลังจากนั้นนักเรียนจะคุยกับเพื่อนบ้าง นำของเล่นขึ้นมาเล่นบ้าง ลุกจากเก้าอี้เดินไปเล่นกับเพื่อนบ้างทั้งเวลาที่เรียนและเวลาที่ครูให้ทำแบบฝึกหัด บางครั้งนำงานอื่นขึ้น มาทำ เมื่อครูมอบหมายงานให้ปฏิบัติจึงไม่สามารถส่งงานได้ตรงเวลาที่ครูกำหนด และนอกจากนั้น ยังมีพฤติกรรมลอกงานเพื่อน ทำให้ครูต้องคอยตักเตือนเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่าพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนผู้นี้ทดลองอย่างเห็นได้ชัด คือมีสมาธิในการฟังครูสอนนานขึ้นประมาณ 1030 นาที มีการพูดคุยกับเพื่อนน้อย ไม่นำของเล่นขึ้นมาเล่น ไม่ส่งเสียงดัง ในขณะที่ครูทำการสอนและในขณะที่ครูมอบหมายงานให้ปฏิบัติ แต่ก็ยังลุกจากเก้าอี้เดินไปหาเพื่อนบ้าง เพื่อไปลอกงานเพื่อน ซึ่งครูจะคอยตักเตือนให้เขาทำเอง

นักเรียนคนที่ 12
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับมารดา ซึ่งมารดาแต่งงานใหม่ บิดามารดามีอาชีพทำนาน ฐานะปานกลาง

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชอบอยู่ไม่นิ่ง ไม่มีสมาธิในการฟังครูสอน ชอบคุยกับเพื่อนในเวลาที่ครูมอบหมายงานให้ทำ และชอบลืมหนังสือเรียนมาและชอบลืมทำการบ้าน และชอบลุกจากเก้าอี้ไปมา ครูต้องคอยเรียกตักเตือนอยู่เสมอ จึงทำให้นักเรียนไม่สามารถส่งงานได้ทันตามเวลาที่กำหนด

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ให้นักเรียนนั่งสมาธิก่อนเรียนทุกครั้ง นักเรียนจะมีสมาธิในการฟังครูนานขึ้น และจะอยู่นิ่ง การคุยกับเพื่อนก็น้อยลง ไม่ลืมอุปกรณ์ การเรียน ทำการบ้านมาและลุกจากเก้าอี้เดินไปมาบ้างเป็นบางครั้ง จึงทำให้นักเรียนส่งงานทันตามเวลาที่กำหนด  แต่อย่างไรก็ดี ครูก็ยังต้องคอยตักเตือนบ้าง

นักเรียนคนที่ 13
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับคนเลี้ยง บิดามารดานำมาจ้างเลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด ระยะแรกก็ส่งค่าจ้างเลี้ยงดูมาให้ หลังจากอายุได้ 2 ปี ก็ไม่มาดูแล บิดามารดา แยกทางกันไปแต่งงานใหม่ นักเรียนอยู่กับคนเลี้ยง

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนมาก นักเรียนชอบลืมอุปกรณ์ การเรียน เช่น หนังสือ ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น นักเรียนชอบแอบนำของเล่นขึ้นมาเล่น และแอบคุยกับเพื่อน ขณะที่ครูสอนและชอบลุกจากเก้าอี้เดินไปมาขณะที่มอบหมายงานให้ทำ ชอบให้เพื่อนทำงานให้ ส่งงานไม่ทันตามกำหนด ครูต้องคอยตักเตือนตลอดเวลา

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมตั้งใจเรียนภาษาไทยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือนำอุปกรณ์การเรียนมาครบ แต่ยังไม่ครบเป็นบางวัน ไม่นำของเล่นมาโรงเรียน การคุยกับเพื่อนน้อยลง ไม่ลุกเดินจากเก้าอี้ไม่เดินไปมาขณะที่ครูสอนและครูมอบหมายงาน ทำงานด้วยตนเอง และส่งงานทันตามกำหนดเวลา แต่อย่างไรก็ดี ครูยังต้องคอยตักเตือนบ้าง

นักเรียนคนที่ 14
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับตา ยาย บิดามารดาไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพ  ตายายมีอาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป มีฐานะค่อนข้างขัดสน นานๆ บิดามารดาจึงจะมาหา

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนวิชาภาษาไทย ชอบลืมหนังสืออ่านบ้าง ลืมหนังสือแบบฝึกหัดบ้าง เวลาเรียนชอบนำไม้บรรทัดหรือดินสอมาเล่นคนเดียวในขณะที่ครูสอน ครูต้องตักเตือนนักเรียนเป็นประจำ ชอบลอกงานเพื่อนในขณะที่ครูมอบหมายงานให้ทำ และชอบคุยกับเพื่อน ชอบลุกจากที่นั่งของตนเดินไปชวนเพื่อนคุย เป็นต้น นักเรียนจะทำงานส่งไม่ทันเวลา

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนดีขึ้น สนใจฟังครูและไม่ลืมอุปกรณ์เรียน ไม่นำของเล่นขึ้นมาเล่น คุยกับเพื่อนน้อยลงในขณะที่ครูทำการสอนไม่ลุกเดินไปมา และทำงานส่งทันเวลาบ้าง แต่อย่างไรก็ดีครูยังต้องคอยตักเตือนบ้าง

นักเรียนคนที่ 15
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับปู่ ย่า มีอาชีพทำนาและทำปลาร้าขาย บิดามารดาไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ นาน ๆ จึงจะกลับมาหานักเรียน

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนเป็นเด็กมีสมาธิในการฟังสั้นมาก จะอยู่นิ่งประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นนักเรียนจะพูดคุยกับเพื่อน ถ้าไม่คุยกับเพื่อนก็จะนำของเล่นขึ้นมาเล่น ของเล่นที่นำ มาเล่นก็ไม่ใช่อย่างอื่นแต่เป็นดินสอ ไม้บรรทัด นำมาเล่นเป็นรถไถไปไถมา ลืมอุปกรณ์การเรียนบ่อยมาก เช่น ลืมหนังสือเรียน ลืมยางลบ ลืมดินสอ เป็นต้น  ชอบลุกจากเก้าอี้คลานไปมาใต้โต๊ะ ในขณะที่ครูสอนและในขณะที่ครูมอบหมายงานให้ทำ ก็ไม่ตั้งใจทำงานพูดคุยเสียงดัง ครูต้องคอยเตือนเสมอ ไม่เคยส่งงานทันเวลาที่ครูกำหนด

หลังจากทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีความตั้งใจเรียนมากขึ้นมีสมาธิในการฟังขณะที่ครูสอนนานขึ้น นักเรียนจะคุยกับเพื่อนน้อยลง ไม่ส่งเสียงดัง ไม่ลืมอุปกรณ์การเรียน แต่ก็ยังลืมบ้างเป็นบางวัน ไม่นำของเล่นขึ้นมาเล่นขณะที่ครูสอน ไม่ลุกจากเก้าอี้คลานไปใต้โต๊ะ ตั้งใจทำงานที่ครูมอบหมายดีขึ้น ส่งงานทันเวลาที่กำหนด แต่อย่างไรก็ดี ครูต้องคอยตักเตือนบ้างเป็นครั้งคราว

นักเรียนคนที่ 16
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับบิดามารดา ซึ่งบิดามีอาชีพค้าขายของเก่า และขายของชำเล็กๆ น้อยๆ ในหมู่บ้าน นักเรียนมีน้อง 1 คน บิดามารดามีฐานะปานกลาง

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนจะมีสมาธิในการเรียนสั้นจะตั้งใจฟังครูสอนได้ไม่นาน ต่อมานักเรียนจะไม่ตั้งใจเรียน เวลาครูสอนจะคุยกับเพื่อน เล่นกับเพื่อน บางทีก็หยิบกระดาษขึ้นมาวาดภาพหรือค้นอะไรเล่น และชอบลุกจากเก้าอี้เดินไปคุยกับเพื่อน เวลาครูมอบหมายงานให้ทำ จึงส่งผลทำให้บางครั้งเขาจะส่งงานไม่ทันตามกำหนดเวลา ครูต้องคอยเรียกตักเตือนเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนจะมีสมาธิในการเรียนดีขึ้นตั้งใจฟังครูสอนได้นานขึ้น นักเรียนจะตั้งใจเรียน แต่ยังคุยกับเพื่อนบ้าง และลุกจากเก้าอี้บ้างนาน ๆ ครั้ง

นักเรียนคนที่ 17
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับตา ยาย มีอาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป บิดามารดาไปทำงานที่กรุงเทพฯ

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีความตั้งใจเรียนน้อย ในขณะที่เรียนมักชวนเพื่อนคุยและเล่นกับเพื่อน บางครั้งก็ลุกจากเก้าอี้เดินไปมา โดยไม่ได้รับอนุญาต  ทำงานเสร็จโดยครูต้องคอยตักเตือนเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนตั้งใจเรียนดีขึ้น คุยกับเพื่อนน้อยลงเล่นกับเพื่อนน้อยลง ไม่ลุกจากเก้าอี้เดินไปมาในขณะที่ครูให้ทำแบบฝึกหัดและส่งงานได้ทันเวลาที่กำหนด โดยไม่ต้องให้ครูคอยตักเตือน

นักเรียนคนที่ 18
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
นักเรียนอาศัยอยู่กับมารดาและน้อย โดยเช่าบ้านเขาอยู่ บิดาไปรับจ้างขับรถบรรทุกส่งของในกรุงเทพฯ ฐานะของครอบครัวปานกลาง

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนวิชาภาษาไทย นักเรียนมีสมาธิในการเรียนสั้นมาก นักเรียนชอบอยู่ไม่นิ่ง คุยกับเพื่อนตลอดเวลา ทั้งในขณะที่ครูทำการสอนและในขณะที่ครูมอบหมายงานให้ทำ ชอบนำของเล่นขึ้นมาเล่น ขณะที่ครูมอบหมายงานให้ทำ จึงทำให้นักเรียนไม่สามารถส่งงานได้ทันตามเวลาที่กำหนด ซึ่งครูต้องคอยตักเตือนเสมอ

หลังการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนปรับตัวดีขึ้นแสดงว่าหลังจากนักเรียนได้ปฏิบัติธรรม ทำให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น ทำให้นิ่ง ตั้งใจเรียนดีขึ้น จะมีก็แค่การคุยกับเพื่อนในขณะที่ครูมอบหมาย งานให้ปฏิบัติ และการส่งงานบางครั้งครูต้องคอยตักเตือนบ้าง

นักเรียนคนที่ 19
สถานภาพโดยทั่วไปของนักเรียน
ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน บิดามารดาไปทำงานรับจ้างก่อสร้างที่ต่างจังหวัด นักเรียนอาศัยอยู่กับยาย นักเรียนมีพี่สาว 1 คน

ก่อนการทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชอบเล่นในขณะที่ครูทำการสอนและชอบคุยกับเพื่อนและชอบลืมหนังสือเรียนมา นักเรียนชอบลุกจากเก้าอี้เดินไปเล่นกับเพื่อน ขณะที่ครูให้ทำแบบฝึกหัด จึงทำให้นักเรียนไม่สามารถส่งงานได้ทันตามเวลาที่กำหนด ครูต้องคอยดูแลและตักเตือนเสมอ

หลังจากทดลอง
ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนปรับตัวดีขึ้น พฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนของนักเรียนลดลงมีสมาธิในการฟังนานขึ้น  ไม่นำของเล่นขึ้นมาเล่น ขณะที่ครูสอนนำอุปกรณ์การเรียนมาครบ  คุยกับเพื่อนน้อยลง ไม่ลุกจากเก้าอี้เดินไปเล่นกับเพื่อน และสามารถส่งงานทันเวลาที่ครูกำหนด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น